การแต่งร้านกาแฟ โดยอาศัยหลัก ฮ...

การแต่งร้านกาแฟ โดยอาศัยหลัก ฮวงจุ้ย
การแต่งร้านกาแฟ โดยอาศัยหลัก ฮวงจุ้ย ก่อนอื่นผมคงต้องสารภาพก่อนว่าผมมิใช่ ซิแส ที่ไหน ฉะนั้นวันนี้เราคงคุยกันในเรื่องของฮวงจุ้ย ในเชิงวิทยาศาสตร์กันนะครับ สำหรับฮวงจุ้ย นั้น หลายคนอาจมีคำถามว่า มันเกี่ยวข้องกับการทำร้านจริงด้วยเหรอ อาจมีหลาย ๆ คนที่ได้ผ่านการแก้ไขฮวงจุ้ยแล้วแต่ยอดขายไม่เห้นได้ดีขึ้นเลย จนทำให้คนเหล่านั้นหมดศรัธากันก็เป็นได้นะครับ สำหรับตัวผมฮวงจุ้ยในประสบการณ์มันคือหลักวิทยาศาสตร์ดี ๆ นี่เอง หากคุณรู้จักที่จะเรี่ยนรู้ถึงเหตุและผลของมัน แล้วนำมาประสมประสานเข้ากับการแต่งร้าน หรือ นำมาผสมเข้ากับการตลาดก็ยังได้อีกด้วย สำหรับการออกแบบร้านกาแฟนั้น สิ่งแรกคงต้องพูดถึงเรื่องทำเล ทำเลในภาษาฮวงจุ้ยเค้าจะเรียกพลังชี่ พลังชี่หมายถึงพลังงานที่มีการเคลื่อนไหวอยู่เรื่อย ๆ เหมือนสายน้ำ หรือทำเลที่มีผู้คนมากมายเดินผ่าน ไม่ว่าจะเป็นตามตลาดนัดต่าง ๆ อธิเช่น ตลาดนัดจตุจักร หรือตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ การที่ทำเลดี ก็อย่าลืมอีกอย่างนะครับว่าค่าเช่ามันก็แพงตามเช่นกัน เหมือนกัน แต่สำหรับบางจุดผมอยากให้ระวังกันนิดนึง บางท่านอาจบอกว่าผมเช่าที่มาราคาแพงมาก อยู่ริมถนน ใหญ่เลยทำไมคนไม่เห็นเข้าร้านผมเลย อันนี้ผมคงต้องให้ย้อนกลับไปดูหน่อยนะครับว่าพลังงานชี่เยอะ ไหลไม่หยุดแล้วคุณมีที่ดักจับหรือยัง หรือเรียกอีกอย่างว่า ที่จอดรถครับ ตัวนี้สำคัญมาก สำหรับร้านกาแฟครับ สำหรับทำเลที่เป็นที่ต้องห้ามเลยคงหนีไม่พ้นกัน คือ ทำเลใต้สะพาน สำหรับทำเลในลักษณะนี้ หากเราพิจารณากันดีๆ แล้ว ส่วนมากภายหน้าของร้านหรืออาคารมักจะดูทึบ ๆ หมอง ๆ ฝุ่นจะค่อยข้างเยอะ และมีการมองเห็นได้ยาก สำหรับวิธีการแก้ฮวงจุ้ยลักษณะนี้ ตามหลักเค้าให้แก้โดยการออกแบบด้านหน้า ให้มีรูปทรงของสามเหลี่ยมพุ่งเข้าใส่สะพานหรือมองอีกอย่างคือเหมือนมีดปังตอสับสะพานนั้นเองครับ นอกจากนั้น คงต้องดูเรื่องการจัดแสงให้ดี เน้นเรื่องป้ายให้ลูกค้าเห็นได้ชัดเจนขึ้น อัดดับต่อไปคงหนีไม่พ้นเรื่องของประตูร้านตามหลักฮวงจุ้ยอัดดับแรกประตูไม่ควรมีหลายบาน หากเป็นไปได้ประตูเข้าและออกควรมีบานเดียว เพื่อความง่ายของการดูแลร้าน พนักงานจะสามารถเห็นคนที่เดินเข้าและเดินออกได้ทุกคนและป้านกันพวกมิจฉาชีพได้อีกทางนึง สำหรับร้านขายของ หรือ โชว์รูปต่าง ๆ การจัดของอาจอาศัยหลักของเลข 8 เข้ามาช่วยความหมายคือ การจัดวางที่ให้เกิดการเดินดูได้โดยรอบซ้ำไปซ้ำมา การที่มี 1 ประตูและมีการจัดร้านเป็นเลข 8 มันเหมือนกับการดักลูกค้าให้เข้ามาในอวยแล้วหาทางออกไม่เจอ แต่ที่สำคัญอย่าลืมจุดเค้าเตอร์ ปิดการขายนะครับ เดี๋ยวลูกค้าจะหาทางออกไม่ได้ ต่อมา อันนี้ถือเป็นข้อห้ามหลักของการออกแบบครับ ในการออกแบบประตูร้านขอให้ดูทำเลให้ดี ๆ ประตูร้านที่ดีควรไม่มีสิ่งกีดขวางด้านหน้า ควรเป็นมุนที่มีการเปิดกว้างให้มากที่สุด พร้อมที่จะรับลูกค้าอยู่ตลอดเวลา หรือในกรณีที่มีเสาอยู่ภายในร้านด้านหน้าบริเวณประตูเราจริง ๆ ทางแก้ง่าย ๆ คือให้เราเอากระจกเงามาปิดทั้งเสาครับ กระจกจะช่วยในเรื่องของมุมมองของลูกค้าทำให้เกิดความรู้สึกกว้างขึ้น แล้วทำให้สินค้าดูดีและหน้าสนใจขึ้นครับ สำหรับเรื่องกระจกเงานั้นผมมีแนวคิดบางอย่างฝากให้ผู้อ่านครับ ในการจัดหน้าร้านบางครังให้เราเอากระจกมาวางหรือประดับบ้างก็ได้นะครับ เพราะจากการสังเกตุพฤษติกรรมของคนเรานั้น เวลาเดินผ่านกระจกเงานชอบหันไปมองกระจกกันครับ มันก็เลยเป็นส่วนหนึ่งที่จะดึงดูดความสนใจของคนที่เดินผ่านไปผ่านมาได้อีกทางนึง ต่อไปเราจะมาดูการจัดวางประตูกับเค้าเตอร์บาร์ร้านกาแฟ โดยมากเราควรจัดให้ประตูตรงกับแคชเชีย เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงการสั่งซื้อได้ง่ายที่สุด และในจุดนี้ พนักงานต้อนรับก็ควรดูเป็นมิตรด้วยนะครับ รอยยิ้มเป็นสิ่งสำคัญครับ นอกจากนี้หากใครต้องการจัดสิ่งของตามหลักฮวงจุ้ยก็สามารถทำได้โดย ให้ยึดประตูร้านเป็นหลัก โดยทางฮวงจุ้ยจะยึดด้านขวาเป็นมังกร ด้านซ้ายคือเสือขาว มังกรนั้นมีความหมายถึงการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา เสือขาวคือความหยุดนิ่ง เพราะฉะนั้นเราจึงไม่ควรเอาเครื่องคิดเงินไว้ฝั่งขวา มันจะหมายถึงมีเท่าไหร่ก็ใช้จนหมด นอกจาก ทำเลร้าน การจัดวางสิ่งของ สิ่งที่ต้องให้ ความสำคัญต่อไปคือเรื่องของ สี แสง เสียง และ กลิ่น สำหรับร้านกาแฟนั้น เราควรออกแบบโดยใช้สี เอิร์ธ โทน อธิเช่น น้ำตาล เขียว ขาว หรือสีที่ดูสบาย ตา เนื่องจากร้านกาแฟเป็นร้านที่ลูกค้าต้องใช้เวลากับมัน ต้องสร้างบรรยากาศผ่อนคลายให้กับลูกค้าให้ได้มาที่สุด ฉะนั้นสีจึงไม่ควรเป็นสีโทนร้อน ซึ่งจะทำให้ลูกค้านั่งได้ไม่นาน หรือเราอาจมองในมุนของกาแฟเป็นธาตุน้ำ เราก็มิควรเอาสีธาตุไฟเข้าชน เหมือนกัน สำหรับการจัดแสงนั้น ตามหลังฮวงจุ้ย คือพลังงานหยาง แห่งความสร้างสรร ก่อให้เกิดการขาย แต่การจัดแสงนั้นก็มิควรให้มากไปหรือน้อยไป การจัดแสงในร้านเราจะแบ่งเป็นแสงไฟ 2 ประเภท อันแรกจะเป็นการจัดแสงทั่ว ๆ ร้าน เพื่อคุมโทนของแสงในร้านให้ดูไม่สว่างมากนักและไม่มืดจนเกินไป หลังจากนั้นเราจะใช้ไฟอีกประเภท มาส่องเข้าตามกำแพงหรือตามหัวเสาต่าง ๆ เพื่อให้เกิดบรรยากาศที่น่าสนใจขึ้น โดยมากการจัดแสงเหล่านี้มักใช้สี เหลือง วอร์ม ไวส์ เนื่องจากสีวอร์มไวส์ จะทำให้อาหาร หรือสินค้าต่าง ๆ ดูน่ากิน หรือน่าสนใจมากขึ้น อันดับต่อมาคือ เสียง เพลงที่นิยมมาเปิดในร้านกาแฟควรจะเป็นเพลงที่ฟังสบาย ๆ โดยมากมักนิยมเพลง แจ๊ส หรือ แนว บอสซ่า และสุดท้ายเรื่องของกลิ่น อันนี้ถือเป็นเสน่ห์ของร้านกาแฟเลยก็ว่าได้ บางคนอาจลืมให้ความสำคัญกับสิ่งนี้แต่อย่าลืมนะครับ ว่ามีร้านกาแฟร้านดังที่สามารถประสบความสำเร็จได้โดยการใช้กลิ่นกาแฟในการดึงดูดคนเข้าร้านได้ครับ แต่ยังไงก็ตาม นอกจากฮวงจุ้ยของร้านที่ดีแล้ว ก็อย่าลืมให้ความสำคัญกับตัวสินค้าและ พนักงานให้มากนะครับ ต่อให้ฮวงจุ้ยดีแค่ไหนหากสินค้าเรายังไม่ถูกใจลูกค้า หรือพนักงานไม่มีรอยยิ้มในการให้บริการ ร้านนั้นก็ไม่ประสบความสำเร็จได้ครับ ร้านที่ดีต้องสร้างจากทุกสิ่งครับ สุดท้ายนี้ผมแอบอาข้อมูลมาฝากเรื่องการเลือกสีร้านให้ตรงกับราศีของเจ้าของร้านครับ ราศี เมษ = ชมพู แดง แดงปนส้ม แสด ราศี พฤษก = ฟ้า น้ำเงิน เขียว ราศีมิถุน = เขียว ขาว ราศีกรกฎ = ขาว เขียวอมขาว เหลืองขาว ราศี สิงห์ = แดง ทอง ส้มเหลือง ราศีกันย์ = เขียวใบไม้ สีเม็ดมะปราง สีอ่อนเรียบ ๆ ราศีตุลย์ = น้ำเงิน ฟ้า ชมพู ม่วง สีเหลือบ ราศีพิจิตร = แดง แดงหม่น ชมพู น้ำตาล แสด ราศีธนู = เหลืองอ่อน แดงเลือดนก น้ำเงิน ราศีมังกร = ดำ เทา ม่วงคราม น้ำเงินเข้ม แดงหม่น ราศีกุมภ์ = ม่วงอ่อน ม่วงแดง น้ำเงินปนม่วง เทา เขียวอ่อน ฟ้า ราศีมีน = เหลือง เหลืองอ่อน เหลืองปนน้ำตาล แดง แดงเลือดนก แดงหม่น
ผู้ตั้งกระทู้ kokoro :: วันที่ลงประกาศ 2012-06-15 08:31:01

ความคิดเห็นที่ 1 (4038032)

หลักสูตรสำหรับเถ้าแก่รายใหม่ เปิดร้านให้ปังทำให้ดังทำยังไง

สำหรับผู้ที่สนใจธุรกิจฯ (ร้านอาหาร เครื่องสำอาง สปาและน้ำหอม)

เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ – 17 กุมภาพันธ์ 2560

การันตีความสำเร็จจากรุ่นสู่รุ่น รับรองหลักสูตรโดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

สมัครสมาชิกทดลองเรียนฟรี

สนใจสอบถามได้ที่

T. 086 533 0866 อ.แจ๊ค

T. 087 678 6504 อ.กานต์

Line ID : TopTopGun

ผู้แสดงความคิดเห็น miniku (faipanita-dot-bb-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2017-02-17 14:17:16

ความคิดเห็นที่ 2 (4050293)
บริษัทผลิตเครื่องสำอางควรต้องผ่านมาตรฐาน HACCP หรือ Hazard Analysis Critical Control Point ความหมายคือ การคาดเดาอันตรายและระดับการควบคุมการผลิตอาหารจัดเป็นหลักการส่งออกสินค้า ทั่วโลก เพื่อความเชื่อมั่นและจำแนกคุณภาพของสินค้า มุ่งเน้นดูแลตั้งแต่เริ่มเข้าสู่การผลิตจนถึงสินค้าถึงมือผู้ใช้เลย
ผู้แสดงความคิดเห็น รักแท้แม้ไม่ใกล้ วันที่ตอบ 2017-04-23 14:53:52

แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *

ผู้แสดงความคิดเห็น *
อีเมล
	ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล